How to-วิธีลดความเสี่ยงเดินไม่ไหว
#จี๊ดมาก ร้าวลงขา ชาอ่อนแรง
ทำไมทำให้เดินไม่ไหว ?
เพราะ กลุ่มกล้ามเนื้อสะโพก 3 มัดนี้ เป็นกล้ามเนื้อหลักที่ใช้ในการเคลื่อนไหว เดิน ยืน นั่ง
และมีความสำคัญยิ่งในการช่วยพยุงหลังส่วนล่าง
ข้อสะโพก ข้อเข่า รวมถึงข้อเท้า
เนื่องจากร่างกายมีการทำงานที่สัมพันธ์เชื่อมโยงกัน ทั้งในส่วนบนกับส่วนล่าง เป็นตัวส่งถ่ายแรง
ในการเคลื่อนไหวเดิน ยืน นั่งให้คล่องแคล่ว
และให้ความมมั่นคงในการทำงานร่วมกับเส้นเอ็น
หลัก ที่เชื่อมแนวกระดูกเชิงกรานเข้ากับกระดูกก้นกบ
ซึ่งถือเป็นจุดควบคุมความสมดุลและการเคลื่อนไหวทั้งหมดของร่างกาย
ดังนั้น กลุ่มกล้ามเนื้อบริเวณสะโพกนี้ จึงมีความสำคัญมาก
เมื่อกลุ่มกล้ามเนื้อนี้มีปัญหา เริ่มไม่แข็งแรง เกร็งตัวมากกว่าปกติ ส่งผลต่อการเคลื่อนไหว ทำให้มีปัญหาในการเดิน ยืน นั่ง ตามมา และการทำงานของอวัยวะเกือบทุกส่วนในร่างกายได้
และเมื่อกล้ามเนื้อเหล่านี้มีปัญหา ซึ่งส่วนใหญ่มักอ่อนแรง เพราะนั่งนาน จนกล้ามเนื้อยืดยาวออก ไม่สามารถทำหน้าที่ให้ความมั่นคงได้
ถือเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ปวดเข่าเรื้อรัง จนถึงเข่าเสื่อม ปวดสะโพกร้าวลงขา ชาลงขา ขาอ่อนแรงเดินไกลไม่ได้ ทั้งยังอาจทำให้ปวดหลังเรื้อรังด้วย
เห็นได้ว่าปัญหาที่เกิดอาจไม่ใช่ที่หลัง หรือที่เข่าเสมอไป
พังผืดข้อไหล่ติดยึดแข็ง โรคใกล้ตัว พึงระวัง!
ใคร #ปวดคอ #บ่า #สะบัก #ปวดร้าวชาลงแขน รีบอ่าน! เลยนะครับ
ข้อไหล่ติด หรือ ข้อไหล่ยึดติดแข็ง เป็นอีกอาการความเจ็บป่วยที่ส่งผลต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน อีกทั้งยังสร้างความหงุดหงิดรำคาญใจให้แก่คนเรา
หากมองข้ามอาจ “ลุกลาม” กลายเป็นปัญหาใหญ่ต่อการเคลื่อนไหวของร่างกายได้
แม้โรคข้อไหล่ติด จะไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด แต่ภาวะที่พบได้บ่อยๆ มักเกิดได้ในกรณีที่คนไข้ได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุที่บริเวณข้อไหล่ ทำให้กล้ามเนื้ออักเสบ เส้นเอ็นฉีกขาด กระทั่งกระดูกแตกหัก รวมถึงผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน โรคไทรอยด์เป็นพิษ โรคหัวใจ ตลอดจนพฤติกรรมการทำงานที่ไม่ค่อยได้ขยับเคลื่อนไหว หรือไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย เหล่านี้เป็นภาวะร่วมที่ทำ
ให้มีโอกาสเกิดภาวะข้อไหล่ยึดติดได้ง่าย
นายแพทย์ประวิทย์ สุขเจริญชัยกุล ศัลแพทย์กระดูกและข้อโรงพยาบาลสมิตติเวชศรีนครินทร์ให้ความรู้ว่า
ปกติข้อไหล่ของคนเราจะประกอบไปด้วยกระดูก 3 ส่วน ได้แก่ กระดูกไหปลาร้าสะบัก และต้นแขน มีรูปร่างเหมือนกับลูกบอลที่อยู่ในเบ้าตื้นๆ โดยบริเวณรอบๆ ลูกบอลก็จะมีเยื่อหุ้มข้อ และเส้นเอ็นกล้ามเนื้อมาปกคลุมส่วนปัญหาของข้อไหล่ยึดติด เกิดจากการอักเสบของเนื้อเยื่อและมีการหนาตัว หรือเกิดพังผืดภายในเยื่อหุ้มข้อไหล่ ทำให้การขยับและเคลื่อนไวของข้อไม่ได้เต็มที่ มักพบได้บ่อยในคนไข้ที่มีอายุตั้งแต่ 40-60 ปีขึ้นไป และเป็นในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย
อาการของโรคแบ่งได้เป็น 3 ระยะ โดยในระยะแรกจะมีอาการปวดข้อไหล่มากเมื่อมีการเคลื่อนไหวของข้อ หรือระยะเริ่มแข็งตัว(Freezing) ระยะนี้ใช้เวลาประมาณ 6 สัปดาห์ถึง 9เดือน ระยะที่สองอาการปวดจะน้อยลงแต่จะมีการเคลื่อนไหวน้อยลง เพราะมีอาการแข็งติดขัดรู้สึกไม่สบาย การใช้ชีวิตประจำวันลำบาก หรือเรียกว่า ระยะแช่แข็ง (Frozen shoulder) ระยะนี้ใช้เวลาประมาณ 4-6 เดือน ส่วนระยะที่สามอาการข้อติดขัดเริ่มดีชั้นหรือเป็นระยะน้ำแข็งเริ่ม
ละลายผู้ป่วยจะเริ่มฟื้นตัว การขยับของข้อดีขึ้นและหายไปเอง ระยะนี้ใช้เวลา 1-2 ปี
หากยังไม่ดีอาจจะพิจารณาผ่าตัดแต่ปัญหาคือ คนไข้ที่อยู่ในระยะเริ่มแรกและระยะสอง มักจะทนความเจ็บปวดไม่ไหวและยังไม่สามารถขยับและทำงานได้สะดวก จึงมักจะต้องพบแพทย์เพื่อรับการรักษาก่อนจะถึงระยะสุด
ท้ายโดยเฉพาะในระยะที่สอง แม้คนไข้จะปวดน้อยลงแต่ยังขยับไม่ได้ เพราะพังผือติดแข็ง ไม่ว่าคนไข้จะพยายามขยับเอง
หรือให้แพทย์ช่วยก็ตาม ยังไม่สามารถขยับได้ในทุกมุม ไม่ว่าองศาใด ทั้งด้านข้าง ด้านหลัง อย่างในคุณผู้หญิงจะติดตะขอเสื้อชั้นในไม่ได้ สวมเสื้อไม่ได้ หรือบางคนเอื้อมหยิบของไม่ได้ เป็นการรบกวนชีวิตประจำวันอย่างมากแนวทางการรักษาสำหรับอาการปวดในระยะแรกแพทย์จะมุ่งลดอาการของคนไข้ก่อน โดยการให้ยาต้านการอักเสบไม่ว่ากิน หรือ ฉีด เพื่อลดอาการปวดและลดพังผืดข้างใน ต่อมาในระยะที่สอง แพทย์จะพยายามให้คนไข้ขยับเคลื่อนไหวของข้อให้มากที่สุด เพื่อให้ข้อไหล่แข็งแรงโดยเน้นการทำกายภาพด้วยท่าบริหารต่างๆ
💢โดยทั่วไปแล้วเมื่อคนไข้ได้รับยา และทำกายภาพ ส่วนใหญ่คนไข้จะมีอาการดีขึ้น ยกเว้นคนไข้บางกลุ่ม เมื่อรักษาทั้งหมดที่กล่าวมาแล้วยังไม่หายหรือไม่ดีขึ้น เพราะไหล่ติดมาก ก็จะต้องพิจารณาใช้วิธีการรักษาด้วยการผ่าตัดเข้ามาช่วยทั้งการผ่าตัดแบบการทำหัตถกรรม หรือการจัดข้อไหล่ เพื่อช่วยให้มีการขยับเคลื่อนไหวของข้อไหล่ได้ดีขึ้น ไปจนถึงการผ่าตัดส่องกล้อง
เพื่อเข้าไปตัดพังผืดออก จะช่วยให้คนไข้ขยับข้อไหล่ได้ดีขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่คนไข้หลังการผ่าตัด
💢อาการจะดีขึ้นประมาณ 6 สัปดาห์ ถึง 3 เดือน
ปัจจุบันคนไข้เป็นโรคข้อไหล่ติดยึดแข็งกันมากขึ้น โดยเฉพาะคนทำงานที่ใช้งานของข้อไหล่ในชีวิตประจำวันน้อย ออกกำลังกายไม่สม่ำเสมอ และผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุต่างๆ แม้จะเป็นโรคไม่ร้ายแรง แต่ก็ทำให้ไม่สามารถใช้ชีวิตได้อย่างเป็นปกติสุขทางที่ดีที่สุดคือ ป้องกันอย่าปล่อยให้เป็นโรคข้อไหล่ติดยึดแข็งด้วยการออกำลังกาย และพยายามขยับข้อไหล่ให้มากขึ้น
อวัยวะที่เรียกว่า หมอนรองกระดูก (Intervertebral disc) มีลักษณะรูปร่างเป็นวงกลม มีขอบเป็นพังผืดเหนียว ภายในมีของเหลวคล้ายเจลบรรจุอยู่ หมอนรองกระดูกนี้คั่นกลางอยู่ระหว่างกระดูกสันหลังแต่ละข้อ ทำหน้าที่รองรับแรงกระแทก เปรียบได้กับเป็น ‘โช้คอัพ’ ให้กระดูกสันหลังของเรา
https://line.me/R/ti/p/%40kwy2018b
เมื่อหมอนรองกระดูกได้รับแรงกระแทกอย่างรุนแรง ของเหลวในหมอนรองกระดูกจะมีโอกาสทะลักออกมากดทับเส้นประสาทที่อยู่ข้างเคียง ทำให้เกิดอาการปวดอย่างรุนแรง หลายคนอาจคิดว่า โรคนี้เกิดเฉพาะผู้สูงวัย แต่ความจริงแล้วพบได้ในวัยหนุ่มสาวอายุ 20 ปี ขึ้นไป มักเกิดจากการดำเนินชีวิตประจำวัน ที่ต้องใช้หลังผิดท่าทาง เช่น การยกของหนัก การนั่งนาน ๆ การไอหรือจามแรงๆ การออกกำลังกาย หรือเล่นกีฬาที่ต้องออกแรงผ่านหลังมากๆ เช่น การตีกอล์ฟ เป็นต้น
เมื่อเส้นประสาทถูกกดทับ เส้นประสาทจะเกิดการอักเสบ หากเส้นประสาทที่ถูกกดทับเป็นเส้นที่เชื่อมโยงกับขาจะส่งผลให้มีอาการปวดร้าวบริเวณขา ซึ่งเป็นอาการเด่นของโรคในบริเวณกระดูกสันหลังส่วนบั้นเอว บางรายมีอาการชาตั้งแต่เอวร้าวลงขาหรือหลังเท้า ตามมาด้วยกล้ามเนื้อขาอ่อนแรง และที่สุดอาจถึงกับสูญเสียการควบคุมระบบขับถ่าย
คุณมีอาการเเบบนี้รึเปล่าครับ #ปวดส้นเท้า !!!
อาการได้แก่ ตื่นมาตอนเช้า หรือนั่งนานๆเวลายืนและเดินจะมีอาการปวดส้นเท้ามาก
พอเดินไปสักพักอาการก็จะดีข้ึน
สาเหตุของอาการปวดส้นเท้ามี 3 สาเหตุหลักๆได้แก่
1. มีการอักเสบของพังผืดฝ่าเท้า
2. ชั้นไขมันบริเวณใต้ฝ่าเท้าบางลง
3. เส้นเอ็นร้อยหวายตึงตัว
https://line.me/R/ti/p/%40kwy2018b
แนวทางการรักษาก็ต้องตามสาเหตุนะครับ
1. มีการอักเสบของพังผืดฝ่าเท้า ก็รักษาด้วยการให้ยาลดอักเสบ แก้ปวด หรือฉีดยาลดการอักเสบที่ตำแหน่งส้นเท้าโดยใช้เครื่อง ultrasound เป็นตัวระบุตำแหน่งที่ฉีด
2. ชั้นไขมันบริเวณใต้ฝ่าเท้าบางลง อาจใช้ตัวหุ้มส้นเท้าเพื่อกันกระแทก
3. เส้นเอ็นร้อยหวายตึงตัว ก็บริหารด้วยการยืดเส้นเอ็นร้อยหวาย
คุณใช้มือถือวันละกี่ชั่วโมง 1 เดือนกี่ครั้ง....ตอบได้ไหมเอ๋ย ?
แล้วกำลังมีอาการเหล่านี้ด้วยไหม ?
- ตึงคอ ที่ต้นคอทางด้านหลัง ปวดกล้ามเนื้อเรื้อรังบริเวณ คอ บ่า ไหล่ หรือสะบัก
- มีอาการปวดบ่า ไหล่ หลังตรงช่วงทรวงอก
- มีอาการชา ปวดร้าวจากคอไปยังมือ หรือมีอาการอ่อนแรงของแขนและมือ
- รู้สึกเวียนหัว ปวดหัว จนคิดว่าเป็นไมเกรน แต่จริงๆแล้วเกิดจากกล้ามเนื้อช่วงคอบ่าตึงมากจนปวดร้าวขึ้นหัว
อาการเหล่านี้ คือ อาการของโรค " text neck syndrome "
แค่โรคเดียวยังไม่พอ ก็มีแนวโน้มว่าจะเป็นโรคอื่นๆตามมาอีกมากมาย อาทิเช่น
1) โรคกระดูกคอเสื่อม
2) กล้ามเนื้อรอบคออักเสบเรื้อรัง (office syndrome)
3) กระดูกสันหลังเสื่อมก่อนวัย
4) ปวดหลัง ปวดเอวเรื้อรัง
https://line.me/R/ti/p/%40kwy2018b
วิธีหลีกเลี่ยง ป้องกัน Text Next
1. ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการยืน ควรยืนหลังตรงให้ถูกต้องตามหลัก ซึ่งหูกับไหล่จะตรงกัน
2. ท่าทางในการใช้งาน ยกมือถือขึ้นมาระดับสายตา ในท่ายืนที่ถูกต้อง แทนที่จะก้มลงไปเล่น ควรจะพยายามให้ท่าทางของคออยู่ในแนวตรงมากที่สุดเท่าที่จะทำได้
3. ถ้าต้องยกมือถือลง ควรใช้สายตามองลงไปแทน
ไม่ก้มหลัง และ ไม่ห่อไหล่ ในขณะที่ใช้งานโทรศัพท์มือถือ
4. ปรับลักษณะนิสัยในการใช้งานโทรศัพท์มือถือ หรืออุุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ระยะเวลาที่ใช้งาน หลีกเลี่ยงการเล่นมือถือตลอดทั้งวัน ควรมีช่วงพักระหว่างเล่น
5.ควรมีการพักเปลี่ยนอิริยาบถเป็นระยะ ในขณะที่มีการใช้งานโทรศัพท์มือถือเป็นระยะเวลานาน
ปวดเข่าแบบไหน…ที่บอกว่ากำลังเป็นข้อเข่าเสื่อม !
ใครได้ยินผู้ใหญ่ในบ้านบ่นปวดเข่าๆ มานาน โดยเฉพาะคุณแม่ คุณป้า คุณย่า คุณยาย อย่ามัวแต่คิดว่าเป็นเรื่องปกติของ ผู้สูงวัย เพราะอาการปวดเข่าที่พวกเขาเป็นกันอยู่นั้น หากปล่อยไว้นานๆ หลายปี อาจทวีความรุนแรงขึ้นจนไม่สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ เพราะการปวดเข่าในผู้สูงวัยนี้ คือสิ่งที่บอกว่าผู้สูงวัยกำลังเป็นโรคข้อเข่าเสื่อม!
https://line.me/R/ti/p/%40kwy2018b
ข้อเข่าเสื่อม เกิดจากอะไร
ข้อเข่าเสื่อมในผู้สูงวัยนั้น โดยมากสาเหตุเกิดจากความเสื่อมของผิวข้อเนื่องจากการใช้งานมาก และใช้งานมาเป็นเวลานาน ทำให้ผิวข้อเสื่อมสลายหายไปจนกระดูกข้อเข่าเสียดสีกันเกิดเป็นความเจ็บปวดและอักเสบอย่างรุนแรง หรืออาจเคยมีประวัติการบาดเจ็บของข้อเข่ามาก่อนเมื่อสูงอายุขึ้นจึงหลีกเลี่ยงอาการข้อเข่าเสื่อมได้ยาก และการเกิดข้อเข่าเสื่อม จะเกิดเร็วหรือช้าก็ยังขึ้นอยู่กับการใช้งานข้อเข่าด้วย โดยเฉพาะคนที่ชอบนั่งยองๆ พับข้อเข่าเป็นเวลานานๆ ไม่มีการบริหารข้อบ้าง ก็มีโอกาสจะเป็นโรคข้อเข่าเสื่อมก่อนวัยอันควร และโรคข้อเข่าเสื่อมนี้ยังเกิดในผู้สูงวัยผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย
https://line.me/R/ti/p/%40kwy2018b
5 อาการที่บอกได้ว่าผู้สูงวัยกำลังเป็นข้อเข่าเสื่อมแล้ว
ลองเช็คอาการปวดเข่าของผู้สูงวัยในบ้านดู ถ้าพวกเขามีอาการแบบนี้ อาจแสดงว่ากำลังเข้าสู่ภาวะข้อเข่าเสื่อมแล้ว
1.ปวดเข่าเป็นประจำ และปวดมากขึ้นเมื่อเดินมากๆ
2.เหยียดขา หรืองอเข่าได้ไม่สุด มีการตึงและปวดเวลาขอเข่าหรือยืดเข่า
3.บางครั้งมีเสียงดังออกมาจากหัวเข่าเวลางอเข่า
4.มีอาการข้อเข่าบวมอักเสบ เวลาที่ปวดเข่ามากๆ
5.หากปวดเข่ามาเป็นเวลานานหลายปีโดยไม่ได้รับการรักษา อาจทำให้ขามีลักษณะโก่งออกเวลาเดิน
อาการปวดเข่าจากข้อเข่าเสื่อมในผู้สูงวัยนี้ หากปล่อยทิ้งไว้ไม่ได้รับการรักษา จะยิ่งทำให้ข้อเข่าเสื่อมมากยิ่งขึ้น เพราะเกิดจากการเสียดสีของกระดูกข้อเข่าที่ผิวข้อถูกทำลายไป หากผู้สูงวัยเริ่มมีอาการปวดข้อเข่า ควรเข้ารับการปรึกษาแพทย์และรักษาแต่เนิ่นๆ จะได้ผลดีกว่าการรักษาเมื่อข้อเข่าเสื่อมขั้นรุนแรงแล้
ว
นี่คือกล่อง "เขียนข้อความ" กล่องที่จะให้คุณเพิ่มข้อความ รูปภาพและวิดีโอได้อย่างอิสระตามสไตล์ของคุณเอง เช่น แบนเนอร์ โปรโมชั่น บทความ แนะนำร้านค้า หรือ รายการสินค้าเด่น เป็นต้น โดยคุณสามารถแก้ไขหรือลบกล่องนี้ได้หากคุณต้องการ ซึ่งมีวิธีการตามขั้นตอนดังต่อไปนี้
วิธีการแก้ไขข้อความในกล่องหน้าที่เข้าชม | 54,097 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 39,523 ครั้ง |
เปิดร้าน | 21 พ.ค. 2560 |
ร้านค้าอัพเดท | 11 ต.ค. 2568 |